ค่าเงินบาทอ่อนค่า จากตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งสูงขึ้น
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวการณ์เคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม 2565 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (6/1) ที่ระดับ 33.26/28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (5/1) ที่ระดับ 33.21/22 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 14-15 ธันวาคม โดยระบุว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐ อยู่ในภาวะตึงตัวอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรับลดการถือครองสินทรัพย์ทั้งหมดด้วย โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเจ้าหน้าที่เฟด (Dot Plot) บ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2565 จากเดิมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2566 และคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรายงานในเดือนกันยายน ที่ระบุว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปี 2565 นอกจากนี้ รายงาน Dot Plot ยังระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 2 ครั้งทั้งในปี 2566 และ 2567 สำหรับตัวเลขของสหรัฐ เมื่อคืนนี้เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐ เพิ่มขึ้น 807,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 375,000 ตำแหน่ง และสูงจากระดับ 505,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ยังเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 57.6 ในเดือนธันวาคม จากระดับ 58.0 ในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้จับตากระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธันวาคม ในวันพรุ่งนี้ โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธันวาคมของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 422,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม และอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.1%
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ปรับตัวอ่อนค่าจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนจับตาดูตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยทางด้านนายกฯ สั่งประเมินสถานการณ์โควิดระลอกหลังปีใหม่ 2 สัปดาห์แรกก่อนนำเข้าที่ประชุม 7 มกราคมนี้ ส่วนทางด้านกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มระดับการเตือนเป็นระดับที่ 4 หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 พลิกมาพุ่งหลังปีใหม่เข้าเกณฑ์แนวโน้มรุนแรง อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมของคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ในเรื่องการปรับมาตรการและปรับระดับโซนสีของพื้นที่ต่าง ๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 33.25-33.52 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 33.50/52 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร เปิดตลาดเช้าวันนี้ (6/1) ที่ระดับ 1.1311/13 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (5/1) ที่ระดับ 1.1302/04 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร สำหรับตัวเลขทางเศรษฐกิจเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการในยูโรโซนปรับตัวลดลง 53.1 ในเดือนธันวาคม ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 53.3 และปรับตัวลดลงจากระดับ 55.9 ในเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1290-1.1315 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1295/97 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน เปิดตลาดเช้าวันนี้ (6/1) ที่ระดับ 116.02/04 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (5/1) ที่ระดับ 115.94/96 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับตัวเลขทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น เปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการปรับตัวเพิ่มขึ้นระดับ 52.1 ในเดือนธันวาคม มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ 51.1 แต่ปรับตัวลดลงจากในเดือนพฤศจิกายนที่ระดับ 53.0 อย่างไรก็ตาม ยังคงติดตามสถานการณ์โควิด-19 อย่างใกล้ชิด หลังจากกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวนมากกว่า 2,000 ราย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 115.76-115.85 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 115.76/78 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญสัปดาห์นี้ ดัชนี PMI ภาคการบริการจาก ISM (6/1), ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ธ.ค. (7/1), อัตราการว่างงานเดือน ธ.ค. (7/1)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -0.5/0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -2.0/+1.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ
